แล้วทำไปทำมาราชันชุดขาวได้เฮอีกครั้งจากจังหวะที่แนวรับบาร์ซ่าพลาดแล้ววินิซิอุสได้บอลหลุดมาที่หน้ากรอบเขตโทษ เขาดึงจังหวะรอเพื่อนก่อนหลอกคลึงบอลให้ชูอาเมนี่แปะออกทางซ้ายให้เมนดี้ที่สุดท้ายหักกลับมาที่หน้าหัวกะโหลกให้บัลเบร์เด้จับหนึ่งทีแล้วบรรจงแปด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งเรียดผ่านมือสเตเก้นเสียบเสาฝั่งซ้ายไปแบบเด็ดขาด 2-0 นาทีที่ 35 จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้ครึ่งเริ่มมา รีล มาดริด ยังคงเหนือกว่า เบนเซม่าได้โอกาสซัดบอลตุงตาข่ายอย่างสวย แต่กลายเป็นเฮเก้อเพราะสุดท้าย VAR ให้สัญญาณว่าเขาล้ำหน้าไปก่อนแล้ว แล้วในที่สุดบาร์ซ่าก็มาทำประตูตีไข่แตกไล่มาเป็๋น 2-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ฟาติได้บอลแล้วโชว์กระชากหนีบัลเบร์เด้หลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายก่อนปาดเรียดไปตรงกลางให้เลวานดอฟสกี้พยายามแล้วโดนไม่เต็มแต่กลายเป็นดีเพราะบอลเลยไปถึงเฟร์รานที่โฉบมาชาร์จโล่งๆไม่เหลือ ในนาทีที่ 83มาดริดมาได้ประตูที่น่าจะตอกฝาโลง จากจังหวะที่โรดรีโก้ได้บอลหลุดไปในกรอบเขตโทษก่อนจะโดนการ์เซียสกัดคว่ำ ผู้ตัดสินเช็ค VAR ก่อนชี้เป็นจุดโทษ ในสนามไม่มีเบนเซม่าแล้ว ทำให้โรดรีโก้รับหน้าที่สังหารเอง เขาแปไปทางขวามือ สเตเก้นพุ่งไปถูกทางและปัดโดนด้วย แต่บอลยังแรงเข้าประตูไป 3-1 สุดท้ายจบเกมเป็นมาดริดที่เปิดบ้านเอาชนะไป 3-1 ทำให้พวกเขายัดเยียดความปราชัยนัดแรกในลีกให้บาร์ซ่าได้ พร้อมกับแซงขึ้นไปนำจ่าฝูงห่าง 3 คะแนน