หลังจากนั้นมา ไบรจ์ตัน กดดันแบบต่อเนื่องแล้วก็เอาประตูทิ้งห่างได้อีก เป็นเตะมุมจากทางขวาที่ มาร์ช เปิดมาบอลหลุดถึงตรงกลาง ชีค ไม่ทันตั้งตัวพยายามสกัดแต่กลายเป็นส่งบอลชนคานเด้งเข้าประตูตัวเอง ไบรจ์ตัน นำ 2-0 แล้ว ในนาทีที่ 14 เท่านั้นไม่พอ ก่อนจบครึ่งแรกไบรจ์ตัน ทำเกมบุกกลับบวกประตูไปได้อีกลูก หลังบอลมาอยู่กับ มอยเซส ก่อนแทงให้ เอสตูปิญาน สอดมาทางซ้ายเข้าเขตโทษเลือกปาดเข้ากลางแต่ ชาโลบาห์ พยายามสกัดกลายเป็นส่งบอลเข้าประตูตัวเอง ไบรจ์ตัน นำยาวๆ 3-0 และก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้กลับมาครึ่งหลังไม่ทันไร เชลซี ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาหลังจาก ชีค ทางขวาจะลุยมาต้องล็อกไว้ก่อนแล้วจ่ายย้อนให้ กัลลาเกอร์ ครอสเข้าไปในเขตโทษ ฮาแวร์ตซ์ โดนประกบห่างเลยโหม่งผ่าน ซานเชซ เข้าไปไล่มา 3-1 ยังมีเวลาให้เอาคืนอีกสองลูก สิงห์บลูพยายามอย่างหนักในช่วงเวลาที่เหลือแต่ก็ยังไล่มาไม่สำเร็จจนกระทั่งเข้าสู่ช่วง ทดเจ็บ ไบรจ์ตัน กลายเป็นฝ่ายที่ได้ตอกฝาโลง หลัง เชลซี จ่ายพลาดกันในแดนตัวเองโดนดักได้อีก เอนซิโซ่ ยิงไกลเข้าไปโดนเซฟไว้บอลเด้งออกมาหา เอนซิโซ่ ได้ยิงอีกรอบในเขตโทษถูกปัดเหมือนเดิมแต่หนนี้เด้งหา โกรส ซ้ำเข้าประตูสำเร็จปิดท้าย 4-1 จบเกม เชลซี แพ้ให้กับ ไบรจ์ตัน 4-1 กลายเป็นความปราชัยหนแรกนับตั้งแต่ พอตเตอร์ เข้ามาคุมและทำให้พวกเขาไร้ชัย 3 เกมติดต่อกันในลีก กลับกันนัดนี้เป็นชัยชนะนัดแรกของ ไบรจ์ตัน นับตั้งแต่ เด แซร์บี้ เข้ามาคุมทีมพร้อมขยับขึ้นมาอันดับ 7 ของตาราง แถมนี่ยังเป็นหนแรกที่ ไบรจ์ตัน เอาชนะ เชลซี ได้ในเกมลีกด้วย