คันเซโล่แดง แต่เรือยังเฮ ฮาลันด์ซัดโทษ ทดเจ็บสุดแสบ 2-1

เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ขึ้นนำตั้งแต่นาที 16 จากประตูของ ฮูเลี่ยน อัวาเรซ เจอจุดเปลี่ยน เจา คันเซโล่ ถูกใบแดงไล่ออกและทำทีมเสียจุดโทษนาที 25 แต่ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นที่ตัวผู้เล่นน้อยกว่าจะยังครองบอลบุกต่อเนื่อง จนมาได้รางวัลแห่งความพยายาม เป็นจุดโทษนาที 90+3 ก่อน เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ สังหารส่งทัพเรือใบพลิกอีกตลบกลับมาชนะ 2-1 เก็บแต้มแซงอาร์เซยอล ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงได้อีกครั้ง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นรองจ่าฝูงตามอาร์เซนอลอยู่ 2 คะแนน พวกเขามีสถิติเล่นในบ้านยอดเยี่ยมมาก ข่มขาดไม่แพ้ ฟูแล่ม ในพรีเมียร์ลีก 14 นัดหลังสุด และชนะถึง 11 นัด เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โรเตชั่นทีมหลายตำแหน่งเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่ชนะเซบีญ่า 3-1 กลางสัปดาห์ และเปลี่ยน 3 ตำแหน่งจากนัดชนะเลสเตอร์ 1-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อให้ นาธาน อาเก้ กลับมาเป็นตัวจริงแทนอายเมริค ลาปอร์ต ขณะที่ ฟิล โฟเด้น มีชื่อเป็นตัวสำรอง

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ หายเจ็บกลับมาได้แล้ว แต่ความฟิตยังไม่พอออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ดังนั้นความหวังในแดนหน้าจะฝากไว้ที่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ อีกครั้ง ฝั่งฟูแล่มวันนี้ส่ง เตเต้, แฮร์รี่ วิลสัน และ คาร์ลอส วินิซิอุส เป็นตัวจริง หลังทีมจะไม่มี อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช หัวหอกตัวความหวัง

เริ่มเกมมาไม่นาน แม้ฟูแล่ม เพลสใส่แมนฯซิตี้ ทำให้เล่นลำบาก แต่กระนั้นเจ้าถิ่นก็ยังได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก กุนโดกัน แทงบอลทะลุช่องให้ อัลวาเรซ เข้าระยะยิงในกรอบเขตโทษ ตะบันเต็มหลังเท้าแสกหน้า เลโน่ เช็ดคานเข้าประตูไป แต่ทว่านาทีที่ 25 จากจังหวะที่อาเก้ประกบ วินิซิอุส ไม่อยู่ ปล่อยให้พักบอลจ่ายให้ วิลสัน หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ คันเซโล่ วิ่งตามหลังมากระแทกล้มลง ผู้ตัดสินให้จุดโทษทันที

แถมยังเป็นใบแดงโดนตรงของฟูลแบ็กทีมเรือใบด้วย

เปเรร่า รับอาสาสังหารจุดโทษไปทางซ้าย ขณะที่เอแดร์ซอน พุ่งไปอีกทาง ฟูแล่มที่ตั้งรับมาตลอดทั้งเกมพลิกตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ แถมตัวผู้เล่นยังมีมากกว่า จบครึ่งแรก ไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นครึ่งหลัง แมนฯซิตี้ ไม่เปลี่ยนแผน ไม่เปลี่ยนตัว และยังเป็นฝ่ายครองบอลบุกตามหาประตูขึ้นนำเหมือนเดิม ครบ 1 ชั่วโมง แมนฯซิตี้ ครองบอลเยอะจริง แต่เจาะเกมรับฟูแล่มเข้าไปลุ้นทำประตูไม่ได้เลย นาทีที่ 64 ถึงเวลา ฮาลันด์ กับ โฟเด้น ต้องลงมาเพิ่มความหวังในการจบสกอร์ แทนที่ กรีลิช และอัลวาเรซ

นาทีที่ 74 หวังผลได้ ฮาลันด์ อยู่ในสนามแค่ไม่กี่นาที ก็จัดการโขกลูกเปิดของเดอ บรอยน์ ทำประตูให้ทัพเรือใบได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม VAR ลากเส้นให้ ฮาลันด์ ล้ำหน้าแค่นิดเดียวเท่านั้น เข้าช่วง 5 นาทีสุดท้าย แมนฯซิตี้ เดินหน้าบุกแหลก แต่เกมรับฟูแล่มก็เหนียวหนึบต้านทานไว้ได้หมด เกมทำท่าจะเสมออยู่แล้ว โรบินสัน กลับทำทะเล่อ ทะล่า ไปเลาะข้อเท้าเดอ บรอยน์ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้รางวัลเจ้าถิ่นทันที

ฮาลันด์ รับหน้าที่สังหารจุดโทษ ไม่พลาด เรือใบที่ตัวผู้เล่นน้อยกว่าได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ในนาทีที่ 95 หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯซิตี้ ทำได้ แซงชนะฟูแล่มไป 2-1

แทงบอล :แทงบอลสด

อ่านข่าวต่อ :แมนฯ ยู