ครึ่งหลัง มาร์ติเนซ ไม่มีอะไรจะเสียเสี่ยงส่ง โรเมลู ลูกากู ที่เหมือนยังไม่ฟิตลงสนามมาแทน ดรีส์ เมอร์เท่นส์ เพื่อโอกาสลุ้นทำประตู เดอ บรอยน์ หยอดบอลจากนอกกรอบเขตโทษด้านขวาไปทางเสาไกล ลุกากู ใช้ความใหญ่เทคตัวขึ้นโขกได้แต่เบาไปหน่อยเข้ามือของลิวาโควิชนาทีที่ 50 โครเอเชีย เกือบได้ประตูขึ้นนำ กวาร์ดิโอล ไหลบอลมาให้ โควาซิช วางเท้าปั่นด้วยขวาบอลพุ่งโค้งจะเสียบคานแล้วแต่กูร์กตัวส์ ยังบินปัดบอลออกหลังเสียแค่เตะมุม ถัดมานาทีที่ 60 ไม่น่าเชื่อว่าเบลเยี่ยมไม่ได้ประตูขึ้นนำ คาร์รัสโก้ หลุดเข้าไปยิงติดเซฟของลิวาโควิชก่อนบอลกระดอนออกมา ลูกากู ตามมาซ้ำเหน่งๆ แต่ดันซัดไปชนเสาเต็มๆโอกาสทองอีกหนของลูกากู เมื่อ เดอ บรอยน์ หลุดไปเปิดสุดเส้นหลังด้านซ้ายแล้วลิวาโควิชออกมาไม่ดีก่อนบอลไปเข้าหัวของลูกากูโหม่งข้ามคานออกไป แต่ภาพช้ามองว่าจังหวะของเดอ บรอยน์ บอลออกหลังไปแล้ว นาทีที่ 87 บอลลอยโด่งแล้วมูนิเย่ร์ แปบอลยัดเข้าไปถึงลูกากู ที่ไม่ทันตั้งตัวกระดอนหลุดเสาแรกไปนิดเดียวชนิดที่เจ้าตัวเป่าปากแบบเสียดายสุดๆโอกาสทองอีกหนของ ลูกากู เริ่มจากโดกู ลากแหวกเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนไหลออกขวาให้ อาซาร์ ชิพผ่านทั้งลิวาโควิชและลอฟเรน แต่ ลูกากู ดันไปพักอกกลับมาเข้ามือของลิวาโควิชหน้าตาเฉยในช่วงนาทีสุดท้าย หมดเวลาการแข่งขัน โครเอเชีย ยันเสมอสำเร็จ ถีบ เบลเยี่ยม จอดป้ายเพียงรอบแบ่งกลุ่มแบบน่าเจ็บใจ