เริ่มมาครึ่งหลังอังกฤษเกือบได้ประตูตีเสมอ จังหวะที่เบลลิงแฮมได้วางเท้าวอลเลย์ด้วยขวาริมกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงจะเสยใต้คานเข้าอยู่แล้วแต่ยังโดนญอริสผวาปัดข้ามคานไปได้ นาทีที่ 54 สิงโตคำรามมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ซาก้าโดนชูอาเมนี่ขัดขาล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินยืนอยู่ตรงนั้นพอดีเลยเป่านกหวีดชี้ไปที่ขุดโทษอย่างมั่นใจเคนที่รับหน้าที่สังหาร เขาจัดการซัดด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งแรงไปทางซ้ายมือตุงตาข่าย 1-1 ไปเลย หมดสิทธิ์สำหรับญอริสที่ไปผิดทาง หลังจากเสียประตูตีเสมอ ตราไก่เกือบได้ประตูออกนำออกนำอีกหน จากจังหวะทีราบิโอต์หลุดไปดีดยิงเร็วหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งเรียดไปติดเซฟพิคฟอร์ด นาทีที่ 60 โอกาสลุ้นแซงนำของอังกฤษ จังหวะที่ซาก้าได้บอลกระชากลุยเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนง้างยิงเร็วเรียดเบาติดเซฟญอริสตราไก่มาได้ประตูขึ้นนำอีกหนจนได้ จากจังหวะที่กรีซมันน์ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนตั้งป้อมเปิดพุ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ชิรูด์โฉบโหม่งบอลไปแฉลบแม็กไกวร์เปลี่ยนทางเข้าประตู 2-1 ไปเลย ในนาทีที่ 78 แต่ทว่าในนาทีที่ 82 อังกฤษมาได้จุดโทษอีกครั้งจากจังหวะที่เมาท์โดนเตโอกระแทกจากด้านหลังล้มลงในกรอบ ผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วชี้ไปที่จุดโทษพร้อมกับให้ใบเหลืองกับเตโอด้วย จังหวะจุดโทษของอังกฤษเป็นเคนที่รับหน้าที่ยิงเหมือนเดิม คราวนี้เขากดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเหินข้ามคานไปเลย สิงโตตีเสมอไม่สำเร็จอังกฤษพยายามลุยต่อ จังหวะนี้เมาท์ได้ซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลก็พุ่งแรงข้ามคานไป อังกฤษมาได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษเยื้องซ้าย เป็นแรชฟอร์ดที่รับหน้าที่ปั่นข้ามกำแพงหลุดข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น